ย่อบางส่วนจากหนังสือ “The Psychology of investing”
John R. Nofsinger 2nd edition 2005
นลท. ทุกคนคงเคยได้ยินคำแนะนำจากกูรู ว่าให้ “ซื้อถูก ขายแพง” แต่...ทำไมถึงทำได้ยากในแง่ปฏิบัติ ก่อนอื่นขอให้รู้จัก คำเหล่านี้
Overconfidence ความมั่นใจมากไป ทำให้คนประเมินความรู้ความสามารถในการควบคุมสถานะการณ์ ของตนเองสูงเกินจริง และประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าความเป็นจริง (บทที่2ในหนังสือจะพูดเรื่องนี้ทั้งบท)
House-money effect = ผลหลังจากประสบกับการได้กำไร จะมี overconfidence เลยตัดสินใจเสี่ยงมากขึ้น
Snake-bite effect (risk-aversion effect) = ผลหลังจากประสบกับการขาดทุน คนจะเต็มใจน้อยลงหรือหลีกเลี่ยงในการเสี่ยง
Disposition effect = ผลจาก การกลัวความเศร้าเสียใจ และ การค้นหาความภูมิใจของนลท. ทำให้ นลท.มีแนวโน้มจะขายหุ้นกำไรเร็วเกินไป และถือหุ้นขาดทุนนานเกินไป
ใน ขณะที่หุ้นขึ้น หรือคุณมีกำไร House-money effect ทำให้ คุณมั่นใจมากขึ้นและมองหาการลงทุนที่เสี่ยงกว่า ซึ่งแสดงออกโดยการซื้อหุ้นที่ราคาได้เพิ่มสูงแล้ว (ซื้อแพง,โลภ)
ถ้า หุ้นตกคุณจะรู้สึก Snake-bite effect และต้องการหนีมัน คุณจึงตัดใจขาย (ขายถูก ,กลัว) การผสมกันของ house-money และ snake-bite ทำให้คุณทำสิ่งตรงข้ามกับที่คำแนะนำบอก “ซื้อถูก ขายแพง”
.. คือคุณจะ “ซื้อแพง ขายถูก” หรือถ้าไม่ขาย (disposition effect)... ก็คือติดดอย
ผลกระทบต่อคนหมู่มากก็จะกลายเป็นผลกระทบต่อตลาด House-money ทำให้หุ้นราคาแพงมากกว่าควรในช่วงเริ่มฟองสบู่(ขาขึ้น)
และ snake-bite ทำให้ราคาหุ้นตกต่ำมากกว่าควรในช่วงฟองสบู่แตก(ขาลง) = overreaction
John R. Nofsinger 2nd edition 2005
นลท. ทุกคนคงเคยได้ยินคำแนะนำจากกูรู ว่าให้ “ซื้อถูก ขายแพง” แต่...ทำไมถึงทำได้ยากในแง่ปฏิบัติ ก่อนอื่นขอให้รู้จัก คำเหล่านี้
Overconfidence ความมั่นใจมากไป ทำให้คนประเมินความรู้ความสามารถในการควบคุมสถานะการณ์ ของตนเองสูงเกินจริง และประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าความเป็นจริง (บทที่2ในหนังสือจะพูดเรื่องนี้ทั้งบท)
House-money effect = ผลหลังจากประสบกับการได้กำไร จะมี overconfidence เลยตัดสินใจเสี่ยงมากขึ้น
Snake-bite effect (risk-aversion effect) = ผลหลังจากประสบกับการขาดทุน คนจะเต็มใจน้อยลงหรือหลีกเลี่ยงในการเสี่ยง
Disposition effect = ผลจาก การกลัวความเศร้าเสียใจ และ การค้นหาความภูมิใจของนลท. ทำให้ นลท.มีแนวโน้มจะขายหุ้นกำไรเร็วเกินไป และถือหุ้นขาดทุนนานเกินไป
ใน ขณะที่หุ้นขึ้น หรือคุณมีกำไร House-money effect ทำให้ คุณมั่นใจมากขึ้นและมองหาการลงทุนที่เสี่ยงกว่า ซึ่งแสดงออกโดยการซื้อหุ้นที่ราคาได้เพิ่มสูงแล้ว (ซื้อแพง,โลภ)
ถ้า หุ้นตกคุณจะรู้สึก Snake-bite effect และต้องการหนีมัน คุณจึงตัดใจขาย (ขายถูก ,กลัว) การผสมกันของ house-money และ snake-bite ทำให้คุณทำสิ่งตรงข้ามกับที่คำแนะนำบอก “ซื้อถูก ขายแพง”
.. คือคุณจะ “ซื้อแพง ขายถูก” หรือถ้าไม่ขาย (disposition effect)... ก็คือติดดอย
ผลกระทบต่อคนหมู่มากก็จะกลายเป็นผลกระทบต่อตลาด House-money ทำให้หุ้นราคาแพงมากกว่าควรในช่วงเริ่มฟองสบู่(ขาขึ้น)
และ snake-bite ทำให้ราคาหุ้นตกต่ำมากกว่าควรในช่วงฟองสบู่แตก(ขาลง) = overreaction
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น