《烦恼即是菩提》 | ||||
พุทธศาสนิกชน 3 ราย สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มเนื่องเพราะปัญหาที่แก้ไม่ตก จึงได้ไปขอคำชี้แนะจากอาจารย์เซนอู๋เต๋อ เมื่อได้พบก็เอ่ยถามอาจารย์เซนว่า "มีหนทางใดที่จะทำให้พวกเรามีความสุขในชีวิต?" อาจารย์เซนถามกลับไปว่า "พวกท่านแต่ละคนมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?" คนแรกตอบว่า "ข้ามีชีวิตอยู่เพราะไม่อยากตาย" คนต่อมาตอบว่า "ข้ามีชีวิตอยู่เพื่อมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ยามแก่เฒ่าแวดล้อมไปด้วยลูกหลาน คงเป็นความสุขยิ่งนัก" คนสุดท้ายตอบว่า "ข้ามีชีวิตอยู่เพื่อเป็นที่พึ่งให้กับคนในครอบครัว ตอนนี้ทุกคนต้องพึ่งพาข้า ดังนั้นข้าจึงไม่อาจตาย" เมื่อได้ฟังเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของทั้งสาม อาจารย์เซนอู่เต๋อได้แต่กล่าวว่า "หากเป็นเช่นนั้นพวกท่านคงไม่อาจมีความสุขตลอดกาล เนื่องเพราะพวกท่านคนหนึ่งมีชีวิตอยู่บนความหวาดกลัวความตาย คนหนึ่งเฝ้ารอให้ถึงยามแก่เฒ่า อีกคนหนึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยภาระอันหนักอึ้ง จนต่างก็หลงลืมหลักการและความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่ เช่นนี้จะมีความสุขได้อย่างไร" จากนั้นอาจารย์เซนจึงเอ่ยถามเหล่าพุทธศาสนิกชนต่อไปว่า "ในความเห็นของทุกท่าน 'ความสุข' คืออะไร?" คนแรกตอบว่า "ย่อมเป็นทรัพย์สินเงินทองบันดาลความสุข" คนต่อมาตอบว่า "ความรักจึงนำมาซึ่งความสุข" คนสุดท้ายตอบว่า "ชื่อเสียงเกียรติยศต่างหากคือความสุข" อาจารย์เซนกลับตอบว่า "นั่นกลับมิใช่ ซ้ำร้ายหากพวกท่านสะสมสิ่งเหล่านี้มากเกินไปกลับยิ่งเพิ่มความทุกข์" พุทธศาสนิกชนทั้งสามมองหน้ากันด้วยความงุนงง อาจารย์เซนจึงกล่าวต่อไปว่า "หากพวกท่านมีทรัพย์สินเงินทอง ความรัก หรือลาภยศสรรเสริญแล้ว ความกังวลว่าจะเสียมันไป ความโศกเศร้าเมื่อสูญเสียไปแล้ว รวมทั้งความปรารถนาอยากได้อยากมีมากกว่าเดิม จะกลายเป็นบ่วงแร้วคอยพันธนาการพวกท่านเอาไว้ กลายเป็นการเพิ่มพูนความทุกข์ แต่หากพวกท่านต้องการความสุข ก็ต้องปรับเปลี่ยนความคิดดังนี้" "อันว่าทรัพย์สินเงินทอง เมื่อมีมากจงทำบุญทำทานออกไปจึงจะเป็นสุข ความรักนั้นต้องรู้จักการเสียสละและการให้ค่อยมีความสุข ส่วนเกียรติยศชื่อเสียงจงนำมาใช้เพื่ออำนวยประโยชน์สุขให้ส่วนรวม เช่นนี้จึงเป็นความสุขโดยแท้" ที่มา : หนังสือ 《禅的故事精华版》, 慕云居 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 地震出版社, 2006.12, ISBN 7-5028-2995-4 |
ปรมาจารย์
smile, meditation and slow life
วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554
สุขาอยู่หนใด
วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554
Funny lawyer quotes
Funny lawyer quotes:
- There are three sorts of lawyers - able, unable and lamentable. - Robert Smith Surtees
- Whoever tells the best story wins. - John Quincy Adams
- A Lawyer will do anything to win a case, sometimes he will even tell the truth. - Patrick Murray
- Ignorance of the law excuses no man - from practicing it. - Adison Mizner
- In almost every case, you have to read between the lies. - Angie Papadakis
- A lawyer is a gentleman who rescues your estate from your enemies and keeps it for himself. - Lord Brougham
- A man is innocent until proven broke. - Anonymous
lawyer jokes
Here are a few of my favorite attorney and lawyer jokes. I might add another ones later as well, this is just a beginning.
How many personal injury attorneys does it take to change a light bulb?
A good lawyer knows the law. A great lawyer knows the judge.
What do you call 5000 dead lawyers at the bottom of the ocean?
A good start!
What's the difference between an attorney and a pit bull?
Jewelry.
How can you tell when a lawyer is lying?
His lips are moving.
How does an attorney sleep?
First he lies on one side, and then on the other.
How do you get a group of lawyers to smile for a picture?
Just say "Fees!"
"You seem to be in some distress," said the kindly judge to the witness. "Is anything the matter?"
"Well, your Honour," said the witness, "I swore to tell the truth, the whole truth and nothing but the truth, but every time I try, some lawyer objects."
A new client had just come in to see a famous lawyer.
"Can you tell me how much you charge?", said the client.
"Of course", the lawyer replied, "I charge $200 to answer three questions!"
"Well that's a bit steep, isn't it?"
"Yes it is", said the lawyer, "And what's your third question?"
How many personal injury attorneys does it take to change a light bulb?
- How many can you afford?
- Three - one to turn the bulb, one to shake him off the ladder, and the third to sue the ladder company.
A good lawyer knows the law. A great lawyer knows the judge.
A good start!
What's the difference between an attorney and a pit bull?
Jewelry.
How can you tell when a lawyer is lying?
His lips are moving.
How does an attorney sleep?
First he lies on one side, and then on the other.
How do you get a group of lawyers to smile for a picture?
Just say "Fees!"
"You seem to be in some distress," said the kindly judge to the witness. "Is anything the matter?"
"Well, your Honour," said the witness, "I swore to tell the truth, the whole truth and nothing but the truth, but every time I try, some lawyer objects."
A new client had just come in to see a famous lawyer.
"Can you tell me how much you charge?", said the client.
"Of course", the lawyer replied, "I charge $200 to answer three questions!"
"Well that's a bit steep, isn't it?"
"Yes it is", said the lawyer, "And what's your third question?"
วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554
อุบาสิกาถวายดอกไม้
มีอุบาสิกาผู้หนึ่ง ทุกๆ วันต้องตัดดอกไม้นำไปถวายพระที่วัดมิเคยขาด วันหนึ่งบังเอิญพบอาจารย์เซนอู๋เต๋อ อาจารย์เซนจึงกล่าวกับนางว่า "หากยึดตามคัมภีร์ที่ได้มีการบันทึกไว้ การนำดอกไม้ที่สดหอมมาถวายพระอย่างสม่ำเสมอ ผลบุญจะส่งให้สีกามีรูปโฉมงดงามในชาติหน้า"
อุบาสิกาผู้นั้นเล่าว่า "ทุกครั้งยามที่ดิฉันนำดอกไม้มาถวายพระ จะรู้สึกเสมือนจิตวิญญาณได้ถูกน้ำชำระล้างจนสะอาดหมดจด ทว่าเมื่อกลับไปถึงบ้านจิตใจกลับฟุ้งซ่านวุ่นวาย จึงอยากสอบถามท่านว่าทำอย่างไรดิฉันจึงจะรักษาความบริสุทธิ์ของจิตใจเอาไว้ ได้ในท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของโลกฆราวาส?"
อาจารย์เซนอู๋เต๋อถามกลับไปว่า "สีกานำดอกไม้สดมาถวายพระ อยากทราบว่าสีกามีวิธีรักษาดอกไม้ให้สดอยู่ได้อย่างไร?"
อุบาสิกาจึงตอบว่า "วิธีรักษาความสดของดอกไม้ ที่ดีที่สุดคือเปลี่ยนน้ำในแจกันทุกวัน และก่อนที่จะนำดอกไม้ไปใส่ในน้ำใหม่ ให้ตัดปลายก้านดอกส่วนที่แช่อยู่ในน้ำทิ้งไปก่อน เพราะส่วนนั้นเป็นส่วนที่ก้านเน่าเปื่อยจนไม่สามารถดูดซึมน้ำขึ้นมาเลี้ยง ดอกได้ซึ่งจะทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉาง่าย"
เมื่อได้ฟังดังนั้น อาจารย์เซนอู๋เต๋อจึงกล่าวว่า "การรักษาจิตใจดวงหนึ่งให้ใสบริสุทธิ์กลับมึหลักการเฉกเช่นกัน สิ่งแวดล้อมที่เราใช้ชีวิตอยู่ ณ ขณะนี้ก็เป็นดั่งน้ำในแจกัน ส่วนตัวเราเป็นเช่นดอกไม้ ที่ต้องหมั่นชำระจิตใจให้สะอาด พิเคราะห์ตนเอง ทำความดี ละเว้นความชั่ว จึงจะสามารถซึมซับธรรมมะเข้ามาในชีวิตได้"
อุบาสิกาได้รับคำสั่งสอนก็ยินดียิ่ง จากนั้นจึงกราบลาอาจารย์เซนพลางกล่าวว่า "ขอบคุณท่านที่ชี้ทางสว่าง ดิฉันหวังว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสใช้ชีวิตศึกษาพระธรรมที่วัดแห่งนี้ สดับรับฟังเสียงระฆังทำวัตรและการสวดมนต์ภาวนา ผ่านชีวิตด้วยความสงบสุข"
ทว่าอู๋เต๋อไต้ซือกลับบอกนางว่า "ลมหายใจของสีกาคือเสียงสวดมนต์ ชีพจรคือเสียงย่ำระฆัง ร่างกายคืออารามศักดิ์สิทธิ์ สองหูคือพุทธะ เช่นนี้ยังมีที่ใดไม่สงบสุข ไม่จำเป็นต้องมาใช้ชีวิตในวัดก็สามารถรักษาจิตใจให้สงบพิสุทธิ์ได้ด้วยตนเอง ในทางกลับกัน หากจิตใจไม่อาจขจัดความฟุ้งซ่าน แม้ว่าร่างกายจะอยู่ ณ อารามลึกเร้นในหุบเขาก็มิอาจพบความสงบสุข ..."เซน" เน้นย้ำให้อยู่กับปัจจุบันขณะ ฉะนั้นใยต้องรอจนถึงวันพรุ่งนี้"
ปัญญาเซน : ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจของเรานี้เอง
ที่มา : หนังสือ 《禅的故事精华版》, 慕云居 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 地震出版社, 2006.12, ISBN 7-5028-2995-4
อุบาสิกาผู้นั้นเล่าว่า "ทุกครั้งยามที่ดิฉันนำดอกไม้มาถวายพระ จะรู้สึกเสมือนจิตวิญญาณได้ถูกน้ำชำระล้างจนสะอาดหมดจด ทว่าเมื่อกลับไปถึงบ้านจิตใจกลับฟุ้งซ่านวุ่นวาย จึงอยากสอบถามท่านว่าทำอย่างไรดิฉันจึงจะรักษาความบริสุทธิ์ของจิตใจเอาไว้ ได้ในท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของโลกฆราวาส?"
อาจารย์เซนอู๋เต๋อถามกลับไปว่า "สีกานำดอกไม้สดมาถวายพระ อยากทราบว่าสีกามีวิธีรักษาดอกไม้ให้สดอยู่ได้อย่างไร?"
อุบาสิกาจึงตอบว่า "วิธีรักษาความสดของดอกไม้ ที่ดีที่สุดคือเปลี่ยนน้ำในแจกันทุกวัน และก่อนที่จะนำดอกไม้ไปใส่ในน้ำใหม่ ให้ตัดปลายก้านดอกส่วนที่แช่อยู่ในน้ำทิ้งไปก่อน เพราะส่วนนั้นเป็นส่วนที่ก้านเน่าเปื่อยจนไม่สามารถดูดซึมน้ำขึ้นมาเลี้ยง ดอกได้ซึ่งจะทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉาง่าย"
เมื่อได้ฟังดังนั้น อาจารย์เซนอู๋เต๋อจึงกล่าวว่า "การรักษาจิตใจดวงหนึ่งให้ใสบริสุทธิ์กลับมึหลักการเฉกเช่นกัน สิ่งแวดล้อมที่เราใช้ชีวิตอยู่ ณ ขณะนี้ก็เป็นดั่งน้ำในแจกัน ส่วนตัวเราเป็นเช่นดอกไม้ ที่ต้องหมั่นชำระจิตใจให้สะอาด พิเคราะห์ตนเอง ทำความดี ละเว้นความชั่ว จึงจะสามารถซึมซับธรรมมะเข้ามาในชีวิตได้"
อุบาสิกาได้รับคำสั่งสอนก็ยินดียิ่ง จากนั้นจึงกราบลาอาจารย์เซนพลางกล่าวว่า "ขอบคุณท่านที่ชี้ทางสว่าง ดิฉันหวังว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสใช้ชีวิตศึกษาพระธรรมที่วัดแห่งนี้ สดับรับฟังเสียงระฆังทำวัตรและการสวดมนต์ภาวนา ผ่านชีวิตด้วยความสงบสุข"
ทว่าอู๋เต๋อไต้ซือกลับบอกนางว่า "ลมหายใจของสีกาคือเสียงสวดมนต์ ชีพจรคือเสียงย่ำระฆัง ร่างกายคืออารามศักดิ์สิทธิ์ สองหูคือพุทธะ เช่นนี้ยังมีที่ใดไม่สงบสุข ไม่จำเป็นต้องมาใช้ชีวิตในวัดก็สามารถรักษาจิตใจให้สงบพิสุทธิ์ได้ด้วยตนเอง ในทางกลับกัน หากจิตใจไม่อาจขจัดความฟุ้งซ่าน แม้ว่าร่างกายจะอยู่ ณ อารามลึกเร้นในหุบเขาก็มิอาจพบความสงบสุข ..."เซน" เน้นย้ำให้อยู่กับปัจจุบันขณะ ฉะนั้นใยต้องรอจนถึงวันพรุ่งนี้"
ปัญญาเซน : ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจของเรานี้เอง
ที่มา : หนังสือ 《禅的故事精华版》, 慕云居 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 地震出版社, 2006.12, ISBN 7-5028-2995-4
วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)